การพิจารณาและกำหนดราคาขายปลีกแนะนำ


การตรวจสอบราคาขายปลีกแนะนำ

กรมสรรพสามิตตรวจสอบราคาขายปลีกแนะนำ ตามที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมหรือผู้นำเข้าได้แจ้งต่ออธิบดีตามมาตรา 18 ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

  1. ในกรณีที่กำหนดราคาขายต่อผู้บริโภคทั่วไป ให้ตรวจสอบจาก
  • ราคาขายที่ปรากฏบนสินค้า
  • ราคาขายที่ปรากฏในสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
  • ราคาขายที่ปรากฏในรายการราคา หรือ
  • ราคาขายที่ได้แจ้งไว้กับส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ
  1. ในกรณีที่แจ้งรายชื่อร้านค้าปลีกที่รับสินค้าของผู้ประกอบอุตสาหกรรมหรือผู้นำเข้าเพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคทั่วไป ที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมหรือ ผู้นำเข้าได้แจ้งไว้ตามมาตรา 18 และให้ถือเอาราคาขายปลีกแนะนำของร้านนั้น ๆ เป็นราคาขายปลีกแนะนำของผู้ประกอบอุตสาหกรรมหรือผู้นำเข้า

เมื่อตรวจสอบตาม (2) แล้วปรากฏว่า มีราคาขายปลีกแนะนำหลายราคา ให้ใช้ราคาสูงสุดเป็น ราคาขายปลีกแนะนำ

การพิจารณาราคาขายปลีกแนะนำ

การพิจารณาราคาขายปลีกแนะนำที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมหรือผู้นำเข้าแจ้งต่ออธิบดี ให้พิจารณาจากต้นทุนการผลิต ค่าบริหารจัดการ และกำไรมาตรฐาน โดยยไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังต่อไปนี้

  1. ต้นทุนการผลิต
  • กรณีสินค้าที่ผลิตในราชอาณาจักร ให้พิจารณาจากต้นทุนทั้งหมดที่มีอยู่ในการผลิตสินค้า ซึ่งได้แก่ ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงาน และค่าใช้จ่ายอื่นที่ใช้ในกระบวนการผลิต
  • กรณีสินค้าน าเข้า ให้พิจารณาจากราคาของสินค้าและค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการน าเข้าสินค้ามาใน ราชอาณาจักร ซึ่งได้แก่ ราคา ซี.ไอ.เอฟ. อากรศุลกากร และค่าใช้จ่ายอื่นที่ใช้ในการดำเนินพิธีการศุลกากร
  1. ค่าบริหารจัดการ ให้พิจารณาจากค่าใช้จ่ายในสำนักงาน ซึ่งได้แก่ ค่าโฆษณา ค่าขนส่ง ค่าประกันภัย ค่าภาษีสรรพสามิต ค่าภาษีอื่นที่จัดเก็บจากการขายสินค้านั้น ค่าธรรมเนียม (ในการรับฝากของในอารักขาศุลกากร) เงิน บำรุงกองทุนหรือองค์การตามที่กฎหมายกำหนดให้เรียกเก็บจากผู้มีหน้าที่เสียภาษีสำหรับสินค้านั้น และค่าใช้จ่ายอื่นที่ เกี่ยวข้องกับการการบริหารการขายสินค้าผู้ประกอบอุตสาหกรรมหรือผู้นำเข้า
  2. กำไรมาตรฐาน ให้พิจารณาจากราคาขายปลีกแนะนำหักต้นทุนการผลิตและค่าบริหารจัดการ

เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาและตรวจสอบการแจ้งราคาขายปลีกแนะนำของผู้ประกอบอุตสาหกรรมหรือผู้นำเข้า ให้อธิบดีมีอำนาจประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการสำรวจ การเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลราคาสินค้า การพิจารณาราคาฐานนิยม และสถานที่ขายสินค้า

การประกาศราคาขายปลีกแนะนำ

หากกรมสรรพสามิตสำรวจและตรวจสอบราคาขายปลีกแนะนำแล้วปรากฏกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าเป็นราคาขายปลีกแนะนำไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง

  1. ผู้ประกอบอุตสาหกรรมหรือผู้นำเข้าแจ้งราคาขายปลีกแนะนำต่ำกว่าร้อยละ 95 ของราคาฐานนิยม หรือ
  2. ผู้ประกอบอุตสาหกรรมหรือผู้นำเข้าแจ้งราคาขายปลีกแนะนำต่ำกว่าร้อยละ 85 ของราคาขายปลีกสูงสุดของสินค้านั้น ที่มีจำหน่ายในตลาดปกติในกรณีที่ไม่สามารถหาราคาฐานนิยมได้

หากกรมสรรพสามิตสำรวจและตรวจสอบราคาขายปลีกแนะนำแล้วปรากฏกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้

  1. เป็นราคาที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรม หรือผู้นำเข้าและมิได้ประสงค์ใช้ซื้อขายกันจริงในตลาดปกติ
  2. เป็นราคาเพื่อการส่งเสริมการขาย
  3. เป็นราคาขายที่ขายให้กับผู้มีสิทธิพิเศษ หรือ
  4. เป็นราคาขายที่มีเงื่อนไขการขายที่ทำให้ราคาขายไม่เป็นไปตามกลไกตลาด