หลักเกณฑ์และพิธีการสำหรับการลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร ตามมาตรา 12

ประกาศกรมศุลกากร ที่ 246/2564 เรื่อง หลักเกณฑ์และพิธีการสำหรับการลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530

กรมศุลกากรเผยแพร่ประกาศกรมศุลกากร ที่ 246/2564 เรื่อง หลักเกณฑ์และพิธีการสำหรับการลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป

ส่วนที่ 1 พิธีการทั่วไป

ข้อ 3 ให้ผู้นำของเข้าผู้ส่งของออกปฏิบัติพิธีการศุลกากร ในการลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรดังต่อไปนี้

ก. จัดทำข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้าและใบขนสินค้าขาออก ตามมาตรฐานที่กรมศุลกากรกำหนดโดยให้บันทึกรหัสสิทธิพิเศษ ตามที่กำหนดเป็นการเฉพาะเรื่องในช่องสิทธิพิเศษ (Privilege Code) ของแต่ละรายการในใบขนสินค้า (Declaration Detail)

ข. การขออนุมัติให้ลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร
“ระบบฐานข้อมูลการลดอัตราอากรและยกเว้นอากรตามมาตรา 12” หมายความว่า ระบบคอมพิวเตอร์ของศุลกากรสำหรับใช้เป็นฐานข้อมูลการอนุมัติหลักการ และรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการลด อัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530
“ผู้ขอใช้สิทธิ” หมายความว่า ผู้นำของเข้าหรือผู้ส่งของออกที่ได้ยื่นคำร้องในการขอ ลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 โดยได้ลงทะเบียนเป็นผู้นำของเข้าหรือผู้ส่งของออก ในระบบทะเบียนผู้มาติดต่อ (Customs Registration) ของระบบคอมพิวเตอร์ของศุลกากรแล้ว
“คำร้อง” หมายความว่า คำร้องขอลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำาหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530
“เอกสารรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า เอกสาร รูปภาพ หรือข้อความที่สร้าง ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งบันทึกในรูปแบบสื่อดิจิตอลประเภทแผ่น CD แผ่น DVD อุปกรณ์ เก็บข้อมูลแบบ USB หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Email) เกี่ยวกับการขอใช้สิทธิลดอัตราอากรหรือยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 ทั้งนี้ต้อง จัดทำเอกสารและข้อมูลในรูปแบบไฟล์ข้อมูลตามข้อกำหนดท้ายประกาศนี้ และให้ถือว่าผู้ขอใช้สิทธิได้รับ รองความถูกต้องครบถ้วนของเอกสารและข้อมูลดังกล่าวแล้ว
“เลขที่อนุมัติหลักการ” หมายความว่า เลขที่อนุมัติหลักการที่ออกโดยระบบคอมพิวเตอร์ ของศุลกากร เพื่อใช้อ้างอิงสำหรับการได้รับลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 ซึ่งจะมีลักษณะดังนี้

“วันเริ่มต้นการได้รับสิทธิ” หมายความว่า วันที่สิทธิเกิดขึ้น โดยมีผลย้อนนับตั้งแต่วันที่ ผู้นำของเข้าหรือผู้ส่งของออกได้ยื่นคำร้องในการขอลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 เมื่อคำร้องดังกล่าวได้ผ่านการอนุมัติหลักการแล้ว “วันที่ได้รับอนุมัติหลักการ” หมายความว่า วันที่บันทึกผลการอนุมัติในระบบฐานข้อมูล การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรตามมาตรา 12

  1. ให้ผู้นำของเข้าหรือผู้ส่งของออกยื่นคำร้องพร้อมเอกสารประกอบตามที่ระบุไว้ในเรื่อง การใช้สิทธินั้น ๆ ต่อสำนักงานศุลกากรหรือด่านศุลกากร ณ ท่า ที่ หรือสนามบิน ที่นำของเข้าหรือ ส่งของออก เพื่อประกอบการพิจารณาอนุมัติให้ได้สิทธิลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร กรณีผู้ขอใช้สิทธิยื่นคำร้องหรือเอกสารไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วน กรมศุลกากร จะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ขอใช้สิทธิทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้อง และให้ผู้นำของเข้าหรือผู้ส่งของ ออกยื่นหนังสือหรือเอกสารเพิ่มเติมให้ถูกต้องครบถ้วนภายในเจ็ดวัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง
  2. กรมศุลกากรจะมีหนังสือแจ้งเลขที่อนุมัติหลักการ (Permit Number) ให้ผู้ขอใช้ สิทธิทราบพร้อมแนบสำเนาเอกสารการอนุมัติหลักการซึ่งพิมพ์จากระบบฐานข้อมูลการลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 ภายในสิบห้าวันทำการนับแต่วันที่ได้รับคำร้องพร้อมเอกสารถูกต้อง ครบถ้วน หากไม่อนุมัติหลักการ กรมศุลกากรจะมีหนังสือแจ้งเหตุผลการไม่อนุมัติให้ทราบด้วย
  3. กรณีผู้ได้รับอนุมัติหลักการยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติม หรือยกเลิกการได้รับอนุมัติ หลักการเดิม ให้ยื่นคำร้องพร้อมเอกสารประกอบตามที่ระบุไว้ในเรื่องนั้น ๆ เพื่อประกอบการพิจารณา ให้ครบถ้วน กรณีเป็นการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับชนิดสินค้าที่นำเข้า ให้ยื่นล่วงหน้าก่อนการนำเข้า ที่สำนักงานศุลกากรหรือด่านศุลกากร ณ ท่า ที่ หรือสนามบินแห่งหนึ่งแห่งใดก็ได้ หากยังไม่ได้รับ อนุมัติให้แก้ไขเปลี่ยนแปลง ต้องดำเนินการตาม (ง) ไปก่อน กรณียื่นคำร้องหรือเอกสารไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน กรมศุลกากรจะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ได้รับอนุมัติหลักการทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
  4. กรมศุลกากรจะมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาการขอยื่นแก้ไขเพิ่มเติมหลักการที่ได้รับ อนุมัติไว้เดิมให้ผู้ยื่นคำร้องทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องและเอกสารถูกต้องครบถ้วน โดยการขอแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าว จะออกเลขที่อนุมัติหลักการใหม่ พร้อมแนบสำเนาเอกสารการอนุมัติ หลักการซึ่งพิมพ์จากระบบฐานข้อมูลการลดอัตราอากรและยกเว้นอากรตามมาตรา 12 หากเป็นการยื่นขอแก้ไขการคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับข้อมูลอนุมัติวันเริ่มต้นการได้รับสิทธิและวันหมดอายุการใช้สิทธิ จะใช้เลขที่อนุมัติหลักการเดิม โดยมีการแก้ไขข้อมูลวันเริ่มต้นการได้รับสิทธิ และวันหมดอายุให้ถูกต้องเท่านั้น ดังนี้

ค. ให้ผู้นำของเข้าหรือผู้ส่งของออกบันทึกข้อมูล (Import Declaration Detail (Permit))

  1. ระบุเลขที่ใบรับรองการนำของเข้าเพื่อการลดอัตราอากรหรือยกเว้นอากร หรือเลขที่ อนุมัติหลักการ ในช่องเลขที่ใบอนุญาต/หนังสือรับรอง (Permit No.)
  2. ระบุวันที่ออกใบรับรองการนำของเข้า หรือวันที่ได้รับอนุมัติหลักการ ในช่องวันที่ ออกใบอนุญาต/หนังสือรับรอง (Issue Date)
  3. ระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของหน่วยงานผู้ออกใบรับรองการนำของเข้า หรือ ของกรมศุลกากร (1994000163011) ในช่องเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของหน่วยงานผู้ออก ใบอนุญาต/หนังสือรับรอง (Permit Issue Authority)

ง. การขอรับของออกไปก่อนที่จะได้รับอนุมัติให้ลดอัตราอากรหรือยกเว้นอากร ให้ผู้นำของเข้า

  1. ชำระอากรในอัตราปกติ โดยในแต่ละรายการของข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้าในช่องสิทธิ พิเศษให้ระบุเป็น “000” หรือ “999” แล้วแต่กรณี
  2. ระบุการใช้สิทธิ โดยบันทึกข้อมูลในส่วนรายการของใบขนสินค้าขาเข้า (Import Declaration Detail (Detail)) ในช่อง Argumentative Reason Code เป็น “P12” (หมายถึง การยื่นขอใช้สิทธิลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนด พิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 แต่ยังไม่ได้รับอนุมัติ) และในช่อง Argumentative Privilege Code ที่ขอใช้สิทธิ เป็น “XXX” โดยใช้เลขรหัสสิทธิพิเศษตามที่กำหนดไว้เป็นการเฉพาะในแต่ละสิทธินั้น
  3. แจ้งความประสงค์ขอตรวจสอบพิกัดและ/หรือราคา ในขณะส่งข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้า เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของศุลกากรดังนี้
  4. ต้องยื่นคำร้องในการขอคืนเงินอากรภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

จ. ผู้นำของเข้าต้องปฏิบัติพิธีการศุลกากรให้ครบถ้วนก่อนการรับของออกจากอารักขาศุลกากร

  1. กรณีระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานผู้ออกหนังสือรับรองการนำของเข้าเพื่อใช้สิทธิ ในการลดอัตราอากรหรือยกเว้นอากร สามารถส่งผ่านข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของศุลกากรโดยผ่านระบบ การให้บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (Single Window) ผู้นำของเข้าไม่ต้องแสดงเอกสารรับรองการนำ ของเข้าเพื่อใช้สิทธิดังกล่าวในขณะปฏิบัติพิธีการศุลกากรอีก
  2. กรณีที่ไม่สามารถส่งข้อมูลหนังสือรับรองการนำของเข้าเพื่อใช้สิทธิในการลดอัตรา อากรหรือยกเว้นอากร ผ่านระบบการให้บริการเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (Single Window) ให้ผู้นำของ เข้าแสดงเอกสารรับรองการนำของเข้าเพื่อใช้สิทธิดังกล่าวแก่หน่วยบริการศุลกากร ก่อนการนำของออกจากอารักขาศุลกากร
  3. เมื่อหน่วยบริการศุลกากร สำนักงานศุลกากรหรือด่านศุลกากร ณ ท่า ที่ หรือสนามบิน ที่นำของเข้า ได้ตรวจสอบเอกสารตรงตามข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้าแล้ว จะพิจารณาอนุมัติการให้ลดอัตราอากร หรือยกเว้นอากร หากตรวจพบว่าเอกสารไม่ตรงกับข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้าจะพิจารณาดำเนินการ ตามระเบียบต่อไป

ฉ. กรณีการจัดทำและยื่นใบขนสินค้าในรูปแบบเอกสาร ให้ผู้นำของเข้าผู้ส่งของออกยื่น เอกสารรับรองการนำของเข้า การส่งของออกเพื่อใช้สิทธิลดอัตราอากรหรือยกเว้นอากรพร้อมกับการยื่นใบขนสินค้า โดยสำแดงเลขที่เอกสาร ชื่อหน่วยงานที่ออกเอกสาร และการใช้สิทธิตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 ไว้ในใบขนสินค้า

ช. การดำเนินการกับของที่ได้รับสิทธิลดอัตราอากรหรือยกเว้นอากร ภายหลังจากที่ได้รับการตรวจปล่อย ไปจากอารักขาของศุลกากรแล้ว

  1. สถานที่ยื่นคำร้องขอ ให้ผู้นำของเข้ายื่นคำร้องขออนุมัติการขยายเวลาการใช้วัตถุดิบ และการขอชำระภาษีอากรที่สำนักงานศุลกากรหรือด่านศุลกากรที่รับผิดชอบ เว้นแต่กรณีการขอส่งของกลับออกไปนอกราชอาณาจักร หรือการขออนุมัติทำลายของซึ่งเป็นวัตถุดิบ ที่ได้นำเข้าทางท่าหรือที่หลายแห่ง ให้สามารถยื่นขออนุมัติต่อ สำนักงานศุลกากร หรือด่านศุลกากร ณ ท่าหรือที่ใดที่หนึ่งที่มีการนำเข้าได้
  2. การยื่นคำร้องขอ เมื่อผู้นำของเข้ามีความประสงค์จะขอดำเนินการ เช่น การขยายเวลาการใช้วัตถุดิบ การขอส่งของกลับออกไปนอกราชอาณาจักร การขอทำลาย หรือการขอชำระค่าภาษีอากร ให้ดำเนินการดังนี้
  • ผู้นำของเข้าสามารถยื่นคำร้องขอได้โดยตรงตามสถานที่ที่ระบุไว้ใน 1 ก่อนครบ กำหนด ระยะเวลาตามที่ระบุไว้ประกาศกระทรวงการคลัง เว้นแต่ของที่นำเข้ามาโดยใช้สิทธิลดอัตราอากร ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ข้อ 3 (28) ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยื่นประกอบคำร้องขอด้วย
  • ยื่นบัญชีแสดงรายการแห่งของที่ขอดำเนินการ เช่น รายละเอียดของวันที่นำเข้า เลขที่ใบขนสินค้าขาเข้า เลขที่บัญชีราคาสินค้า ปริมาณที่นำเข้า ปริมาณคงเหลือ เป็นต้น เพื่อให้พนักงานศุลกากรตรวจสอบ
  • ในกรณีที่ขอทำลาย หรือขอส่งของออกไปนอกราชอาณาจักร ต้องรับคณะเจ้าหน้าที่ ของสำนักงานหรือด่านศุลกากรที่พิจารณาคำร้องขอ ไปทำการตรวจ และ/หรือ ควบคุมการทำลายของ และชำระค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดไว้ เมื่อส่งของตามที่ได้รับอนุมัติออกนอกราชอาณาจักรแล้ว ให้แจ้งเลขที่ใบขนสินค้าขาออกให้พนักงานศุลกากรผู้ตรวจสอบทราบด้วย
  • กรณีขอขยายเวลาการใช้วัตถุดิบ ให้ยื่นขอขยายก่อนครบกำหนดตามระยะเวลา ที่ระบุไว้ในแต่ละข้อตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร ตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 โดยกรมศุลกากรจะอนุญาต ให้ขยายเวลาออกไปได้ ตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในแต่ละข้อดังกล่าว หากไม่มีการกำหนดไว้ ให้ขยายระยะเวลาได้ไม่เกินหนึ่งปี

ซ. ให้ผู้นำของเข้าจัดเก็บและรักษาบัญชีเอกสารหลักฐานและข้อมูลไม่ว่าในสื่อรูปแบบใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผ่านพิธีการศุลกากรไว้ เป็นเวลาไม่น้อยกว่าห้าปี นับแต่วันนำของเข้าหรือวันส่งของออก

ฌ. กรณีมีการกำหนดพิธีการไว้เป็นการเฉพาะในการใช้สิทธิลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากร ในเรื่องใด ให้ปฏิบัติให้เป็นไปตามพิธีการเฉพาะในเรื่องนั้น ๆ

ญ. กรณีที่ได้รับอนุมัติหรืออยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติหลักการในการขอใช้สิทธิ หรือกรณีที่ได้รับหนังสือรับรองหรือสูตรการผลิตที่ได้รับอนุมัติไว้แล้ว หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาจากหน่วยงานอื่น ก่อนประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ให้สามารถใช้ต่อไปได้ โดยไม่ต้องดำเนินการใหม่

ที่มา : กรมศุลกากร