วิธีปฏิบัติ
ผู้ส่งของออกจะต้องยื่นคำร้องแสดงเหตุผลในการขอส่งกลับออกไปโดยขอใช้สิทธิ การชำระอากรของ Re-export พร้อมใบขนสินค้าดังนี้
การส่งของกลับออกไปโดยที่ของยังอยู่ในอารักขาของศุลกากร (ยังมิได้นำของออกไปจากศุลกากร)
ให้ยื่นใบขนสินค้าขาเข้าและใบขนสินค้าขาออกพร้อมกันต่อหน่วยงานพิธีการของ ท่าที่นำเข้า เพื่อขออนุมัติให้ทำ Re-export ก่อนที่จะให้ หน่วยงานตรวจปล่อยดำเนินการต่อไป การเรียกเก็บอากรขาเข้าแยกเป็น 3 กรณี
ถ้าผู้ส่งของออกส่งของออกทางท่าเดียวกับที่นำเข้า เช่น นำเข้าทางท่าเรือกรุงเทพและ ส่งออกทางท่าเรือกรุงเทพ ให้ชำระเฉพาะอากรขาเข้าเพียง 1 ใน 10 ส่วน แต่ไม่เกิน 1,000.- บาท ตัวอย่างเช่น
- มูลค่าอากรของ ๆ นั้นเมื่อนำเข้าเท่ากับ 9,500 บาท ก็ชำระอากรเพียง 950 บาท
- กรณีที่มูลค่าอากรเกินกว่า 10,000.- บาท เช่น 15,000 บาท จำนวนเงิน 1 ใน 10 คือ 1,500.- บาท แต่เป็นจำนวนเงินที่เกินกว่า 1,000.- บาท จึงชำระอากร เพียง 1,000.-บาทเท่านั้น
หากผู้ส่งของออกส่งของออกทางท่าอื่นซึ่งมิใช่ท่าที่นำเข้า เช่น นำเข้าที่ท่าเรือกรุงเทพ แต่ส่งออกที่ท่าเรือแหลมฉบัง จะต้องชำระภาษีอากรต่างๆให้ครบถ้วนก่อน เมื่อได้ส่งของกลับออกไปแล้วจึงขอคืนอากร 9 ใน 10 ส่วน หรือส่วนที่เกิน 1,000.- บาท เว้นแต่จะเป็นการใช้สิทธิตัวแทนออกของรับอนุญาต ในการปฏิบัติพิธีการ จึงจะสามารถชำระเฉพาะอากรขาเข้า 1 ใน 10 ส่วน แต่ไม่เกิน 1,000.- บาท ได้ เช่นกรณีชำระอากรไว้ 9,500 บาท เมื่อได้ส่งของกลับออกไปแล้วจะขอคืนได้ 8,550.- บาท หรือชำระอากรไว้ 15,000.- บาทจะขอคืนได้ 14,000.- บาท เป็นต้น การที่มีระเบียบปฏิบัติเช่นนี้ก็เนื่องจากการส่งออกต่างท่านั้น จะต้องนำสินค้าออกจากท่าหนึ่งไปยังอีกท่าหนึ่ง ซึ่งทำให้ยากแก่การควบคุมผู้ส่งออกอาจจะไม่ส่งของออกไปจริง ดังนั้นจึงให้ชำระภาษีให้ครบถ้วนก่อน แล้วมาขอคืนในภายหลังเมื่อพิสูจน์ได้ว่าส่งออกจริง.
กรณีของที่อยู่ในอารักขาของศุลกากรจนกลายเป็นของตกค้างตามกฎหมายแล้ว (เกิน 2 เดือน 15 วัน) ผู้ส่งของออกจะต้องชำระอากรขาเข้าให้ครบถ้วนก่อนแล้วจึงขอคืนอากรในภายหลัง เว้นแต่ได้รับอนุมัติจากกรมศุลกากรให้ไม่ต้องชำระอากรเต็มจำนวน
การส่งของกลับออกไปโดยที่อยู่นอกอารักขาของศุลกากร (ของที่ตรวจปล่อยไปจากศุลกากรแล้ว)
ผู้ส่งของออกจะต้องยื่นใบขนสินค้าขาออกตามปกติ ที่หน่วยงานพิธีการของท่าที่ส่งออกพร้อมคำร้องขออนุมัติทำ Re-export เจ้าหน้าที่จะนำใบขนสินค้าขาเข้าของสินค้ารายนี้ มาประกอบการพิจารณาเพื่อ อนุมัติให้ต่อไป
เมื่อได้รับอนุมัติแล้วจึงสามารถส่งของนั้นกลับออกไปได้และขอรับภาษีอากรที่ ได้ชำระไว้แล้วต่อไป การคืนอากรเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น คือ คืนอากรให้ 9 ใน 10 ส่วน หรือส่วนที่เกิน 1,000.- บาท ตัวอย่างเช่น ถ้าชำระอากรไว้ 9,500.- บาท จะคืนให้ 8,550.- บาท (9 ใน 10 ส่วน) หรือชำระอากรไว้ 15,000.- บาท จะคืนให้ 14,000.- บาท (ส่วนที่เกิน 1,000.- บาท)
ให้บันทึกข้อมูลในใบขนสินค้าขาออกดังนี้
- Re-Export = Y (ในส่วนของ Export Declaration Detail)
- Privilege Code = 003
- Export Tariff = 9PART3
- Tariff Code = บันทึกพิกัดศุลกากรให้ตรงกับชนิดของของที่ส่งออก
- Declaration NO = เลขที่ใบขนสินค้าขาเข้าที่อ้างถึง ซึ่งนําของเข้ามาตามมาตรา 28
- Declaration Line Number = รายการในใบขนสินค้าขาเข้าที่อ้างถึง